สหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จำกัด เดิมชื่อสหกรณ์ออมทรัพย์กรมไปรษณีย์โทรเลข จำกัด เริ่มก่อตั้งและจดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2512 สำนักงานตั้งอยู่ที่อาคารชั้นเดียวข้างต้นโพธิ์ กรมไปรษณีย์โทรเลข (บางรัก) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมในการช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในหมู่สมาชิกและมุ่งอำนวยประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและสังคม เป็นแหล่งออมทรัพย์และการให้กู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ย ที่ต่ำกว่าธนาคารทั่วไปให้แก่ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข โดยมีนายศรีภูมิ ศุขเนตร รองอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ในขณะนั้นเป็นผู้ก่อตั้งและได้เชิญชวนข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลขร่วมเป็นสมาชิกด้วยการซื้อหุ้นๆ ละ 10 บาท ซึ่งสมาชิกจะถือหุ้นมากหรือน้อยตามอัตราเงินเดือน แต่อย่างน้อยคนละ 2 หุ้น
ต่อจากนั้น คณะผู้ก่อตั้งได้กำหนดให้มีการประชุมและเลือกตั้งคณะกรรมการ เพื่อดำเนินการจัดทำร่างข้อบังคับและ ระเบียบ ตามคำแนะนำของกรมส่งเสริมสหกรณ์ แล้วนำสู่ที่ประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พุทธศักราช 2512 ซึ่งที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ใช้ข้อบังคับสหกรณ์ โดยมีนายศรีภูมิ ศุขเนตร ลงนามในฐานะประธานคณะผู้ก่อตั้ง และนายศักดิ์ศิริ มากศิริ ลงนามในฐานะเลขานุการ ทั้งนี้คณะผู้ก่อตั้งได้มอบหมายให้นายบัญชา สุทธยาคม ผู้จัดการคนแรก ไปจดทะเบียน และได้รับอนุญาตให้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2512 โดยมีสมาชิกเริ่มแรก 375 คน มีทุนเรือนหุ้น 32,930 บาท
พุทธศักราช 2520 กรมไปรษณีย์โทรเลขได้เปลี่ยนสถานะมาเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยใช้ชื่อว่า การสื่อสารแห่งประเทศไทยสหกรณ์ออมทรัพย์จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น สหกรณ์ออมทรัพย์กรมไปรณีย์โทรเลขและการสื่อสารแห่งประเทศไทย จำกัด
พุทธศักราช 2525 ที่ประชุมใหญ่ได้มีมติเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อเป็น สหกรณ์ออมทรัพย์การสื่อสารแห่งประเทศไทย จำกัด ใช้ชื่อย่อว่า สอ.กสท.
พุทธศักราช 2530 สหกรณ์ได้ย้ายจากที่ทำการบางรักมาอยู่ ณ สำนักงานใหญ่การสื่อสารแห่งประเทศไทย เลขที่ 99 หมู่ 3 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10002
พุทธศักราช 2533 คณะกรรมการได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องก่อสร้างอาคารเป็นของตนเอง เนื่องจากกิจการได้เจริญเติบโต และขยายตัวมาโดยตลอด จึงได้ออกแบบก่อสร้างเป็นอาคาร 2 ชั้น ตั้งอยู่ในบริเวณการสื่อสาร แห่งประเทศไทย หลักสี่ ถนนแจ้งวัฒนะ โดยมีนายศรีภูมิ ศุขเนตร เป็นประธานในการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และเจ้าหน้าที่ได้เริ่มปฏิบัติงานพร้อมให้บริการสมาชิกในอาคารใหม่ตั้งแต่เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2534 จนถึงปัจจุบัน